ชื่อสามัญ Orange Trumpet, Flame Flower.
ชื่อวิทยาศาสตร์ Pyrostegia venusta., Miers.
วงศ์ BIGNONIACEAE
ชื่ออื่น
ลักษณะทั่วไป พวงแสดเป็นพันธุ์ไม้เถาเลื้อยที่มีขนาดใหญ่ สามารถเลื้อยเกาะได้ไกลมากกว่า 40 ฟุต เถาอ่อนสีเขียว เมื่อแก่จะกลายเป็นสีน้ำตาล ใบเป็นใบประกอบ มี 3 ใบย่อย แต่จะมีบางใบที่เป็นคู่โดยใบย่อยที่สามที่อยู่ตรงกลางจะเปลี่ยนจากใบเป็นมือเกาะ ใบออกสลับกัน สีเขียวเข้ม ก้านใบสั้นเกือบชิดกิ่ง ใบรูปไข่ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบเรียบไม่มีจัก ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบ และตามปลายกิ่งส่วนยอดดอกดกจนดูแน่นช่อ มีกลีบรองดอก เป็นรูปถ้วย หรือรูปกระดิ่งหงาย ดอกเป็นรูปทรงกรวย เรียวยาว ปลายดอกจะบานออกเป็น 4 กลีบ เมื่อดอกบานเต็มที่กลีบดอกจะงอโค้งลงข้างล่าง ดอกยาวประมาณ 5–6 เซนติเมตร ภายในดอกมีเกสรตัวผู้ 4 อัน สั้นยาวไม่เท่ากัน สั้น 2 อัน และยาว 2 อัน เกสรตัวเมีย 1 อัน อยู่ตรงกลาง สีตองอ่อน และยาวกว่าเกสรตัวผู้ พวงแสดออกดอกช่วง เดือนธันวาคม–มีนาคม ของทุกปี
การขยายพันธุ์ ปักชำกิ่ง, ตอนกิ่ง
สภาพที่เหมาะสม ดินร่วน ไม่ต้องการน้ำมาก แสงแดดจัด
ถิ่นกำเนิด ประเทศบราชิลและอาเจนตินา
วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
ดอกราชพฤกษ์ ดอกไม้ประจำจังหวัดขอนแก่น, นครศรีธรรมราช
ชื่อสามัญ Golden Shower Tree, Purging Cassia
ชื่อวิทยาศาสตร์ Cassis fistula Linn.
วงศ์ LEGUMINOSAE
ชื่ออื่น คูน(อีสาน), ลมแล้ง(ภาคเหนือ), ลักเกลือ ลักเคย(ปัตตานี), อ้อดิบ(ภาคใต้), กุเพยะ(กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี), ชัยพฤกษ์ ราชพฤกษ์(ภาคกลาง)
ลักษณะทั่วไป ราชพฤกษ์เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางสูงประมาณ 12–15 เมตร ลำต้นสีขาวปนเทา ผิวเรียบมีรอยเส้นรอบต้น และ รอยปมอยู่บริเวณที่เกิดกิ่ง ใบเป็นใบประกอบมีใบย่อยเป็นคู่ออกจากก้านใบ ใบย่อยมีประมาณ 4–8 คู่ ใบรี รูปไข่ โคนใบมน ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบสีเขียว ออกดอกสีเหลือง เป็นช่อห้อยระย้าตามก้านใบ เวลาออกดอกใบจะร่วง
การขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด
สภาพที่เหมาะสม ดินร่วนซุย ดินร่วนปนทราย ดินร่วนเหนียว ต้องการน้ำน้อยทนแล้ง แสงแดดจัด
ถิ่นกำเนิด เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตอนกลาง ทางใต้ของอเมริกา และออสเตรเลียตอนเหนือ
ชื่อวิทยาศาสตร์ Cassis fistula Linn.
วงศ์ LEGUMINOSAE
ชื่ออื่น คูน(อีสาน), ลมแล้ง(ภาคเหนือ), ลักเกลือ ลักเคย(ปัตตานี), อ้อดิบ(ภาคใต้), กุเพยะ(กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี), ชัยพฤกษ์ ราชพฤกษ์(ภาคกลาง)
ลักษณะทั่วไป ราชพฤกษ์เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางสูงประมาณ 12–15 เมตร ลำต้นสีขาวปนเทา ผิวเรียบมีรอยเส้นรอบต้น และ รอยปมอยู่บริเวณที่เกิดกิ่ง ใบเป็นใบประกอบมีใบย่อยเป็นคู่ออกจากก้านใบ ใบย่อยมีประมาณ 4–8 คู่ ใบรี รูปไข่ โคนใบมน ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบสีเขียว ออกดอกสีเหลือง เป็นช่อห้อยระย้าตามก้านใบ เวลาออกดอกใบจะร่วง
การขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด
สภาพที่เหมาะสม ดินร่วนซุย ดินร่วนปนทราย ดินร่วนเหนียว ต้องการน้ำน้อยทนแล้ง แสงแดดจัด
ถิ่นกำเนิด เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตอนกลาง ทางใต้ของอเมริกา และออสเตรเลียตอนเหนือ
ดอกพะยอม ดอกไม้ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์, พัทลุง
ชื่อสามัญ Shorea white Meranti
ชื่อวิทยาศาสตร์ Shorea talura Roxb.
วงศ์ DIPTEROCARPACEAE
ชื่ออื่น กะยอม (เชียงใหม่), ขะยอม (ลาว), ขะยอมดง พะยอมดง (ภาคเหนือ), แคน (ลาว), เชียง เซี่ยว (กะเหรี่ยง-เชียงใหม่), พะยอม (ภาคกลาง), พะยอมทอง (สุราษฎร์ธานี, ปราจีนบุรี), ยางหยวก (น่าน)
ลักษณะทั่วไป พะยอมเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูงประมาณ 15–20 เมตร ทรงพุ่มกลม ผิวเปลือกสีน้ำหรือเทา เนื้อไม้มีสีเหลืองแข็ง ลำต้นแตกเป็นร่องตามยาวมีสะเก็ดหนา ใบเป็นรูปมนรี ปลายใบแหลม โคนใบสอบมน ขอบใบเรียบ ด้านหลังใบมีเส้นใบชัด ดอกออกเป็นช่อ ใหญ่ส่วนยอดของต้น ดอกมีกลีบ 3 กลีบ โคนกลีบดอกติดกับก้านดอกมีลักษณะกลม กลีบดอกเรียบโค้งเล็กน้อย มีสีเหลืองอ่อน กลิ่นหอม
การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด
สภาพที่เหมาะสม สภาพดินทุกชนิด เป็นไม้กลางแจ้ง สามารถปรับเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดีมาก
ถิ่นกำเนิด พบตามป่าผลัดใบ และป่าดิบ เป็นไม้พื้นเมืองของเอเชีย ไทย, พม่า, มาเลเซีย
ชื่อวิทยาศาสตร์ Shorea talura Roxb.
วงศ์ DIPTEROCARPACEAE
ชื่ออื่น กะยอม (เชียงใหม่), ขะยอม (ลาว), ขะยอมดง พะยอมดง (ภาคเหนือ), แคน (ลาว), เชียง เซี่ยว (กะเหรี่ยง-เชียงใหม่), พะยอม (ภาคกลาง), พะยอมทอง (สุราษฎร์ธานี, ปราจีนบุรี), ยางหยวก (น่าน)
ลักษณะทั่วไป พะยอมเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูงประมาณ 15–20 เมตร ทรงพุ่มกลม ผิวเปลือกสีน้ำหรือเทา เนื้อไม้มีสีเหลืองแข็ง ลำต้นแตกเป็นร่องตามยาวมีสะเก็ดหนา ใบเป็นรูปมนรี ปลายใบแหลม โคนใบสอบมน ขอบใบเรียบ ด้านหลังใบมีเส้นใบชัด ดอกออกเป็นช่อ ใหญ่ส่วนยอดของต้น ดอกมีกลีบ 3 กลีบ โคนกลีบดอกติดกับก้านดอกมีลักษณะกลม กลีบดอกเรียบโค้งเล็กน้อย มีสีเหลืองอ่อน กลิ่นหอม
การขยายพันธุ์ การเพาะเมล็ด
สภาพที่เหมาะสม สภาพดินทุกชนิด เป็นไม้กลางแจ้ง สามารถปรับเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดีมาก
ถิ่นกำเนิด พบตามป่าผลัดใบ และป่าดิบ เป็นไม้พื้นเมืองของเอเชีย ไทย, พม่า, มาเลเซีย
ดอกพิกุล ดอกไม้ประจำจังหวัดกำแพงเพชร, ยะลา, ลพบุรี
ชื่อสามัญ Bullet Wood, Spanish Cherry
ชื่อวิทยาศาสตร์ Mimusops elengi Linn.
วงศ์ SAPOTACEAE
ชื่ออื่น กุน (ภาคใต้), แก้ว (ภาคเหนือ), ซางดง (ลำปาง), พิกุลป่า (สตูล), พิกุลเขา พิกุลเถื่อน (นครศรีธรรมราช), พิกุล (ทั่วไป)
ลักษณะทั่วไป พิกุลเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลางสูงประมาณ 8–15 เมตร เป็นพุ่มทรงกลมใบออกเรียงสลับกันใบมนรูปไข่ปลายแหลม ลักษณะโคนใบมน สอบขอบใบโค้งเป็นคลื่นเล็กน้อย ใบเป็นมันสีเขียว ดอกเป็นดอกเดี่ยว ออกดอกเป็นกระจุกตามง่ามใบหรือยอด มีกลีบดอกประมาณ 8 กลีบ เรียงซ้อนกัน กลีบดอกเป็นจักรเล็กน้อย สีขาวนวลมีกลิ่นหอมมาก ผลรูปไข่หรือกลมรีผลแก่มีสีแสด เนื้อในเหลืองรสหวาน ภายในมีเมล็ดเดียว
การขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด, ตอนกิ่ง
สภาพที่เหมาะสม ดินทุกชนิด แสงแดดจัด
ถิ่นกำเนิด อินเดีย, พม่า และมาเลเซีย
ดอกกาญจนิกา ดอกไม้ประจำจังหวัดกาญจนบุรี
ชื่อสามัญ Night Flower Jasmin
ชื่อวิทยาศาสตร์ Nyctathes arbotristis
วงศ์
ชื่ออื่น
ลักษณะทั่วไป เป็นไม้พุ่มยืนต้นขนาดกลางสูงประมาณ 15 เมตร ใบเดี่ยวออกเป็นคู่ สลับกันไปตามข้อของต้น สีเขียวมีขนอ่อนๆ ออกดอกเป็นช่อ ตามส่วนยอดและโคนก้านใบ แต่ละช่อมีดอกประมาณ 5-8 ดอก ดอกสีขาวมี 6 กลีบ กลีบดอกจะบิดเวียนไปทางขวางคล้ายกังหัน ปลายกลีบเหมือนหางปลา วงในดอกเป็นสีแดงแสด หลอดดอกสีแง เกสรเป็นเส้นเล็กละเอียดซ้อนอยู่ในหลอดดอก มีกลิ่นหอม บานกลางคืน ออกดอกตลอดปี
การขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด ตอนกิ่ง และปักชำ
สภาพที่เหมาะสม ดินร่วนซุยระบายน้ำได้ดี ความชื้นปานกลาง แสงแดดจัด
ถิ่นกำเนิด ประเทศอินเดีย
[panmai]
ชื่อวิทยาศาสตร์ Nyctathes arbotristis
วงศ์
ชื่ออื่น
ลักษณะทั่วไป เป็นไม้พุ่มยืนต้นขนาดกลางสูงประมาณ 15 เมตร ใบเดี่ยวออกเป็นคู่ สลับกันไปตามข้อของต้น สีเขียวมีขนอ่อนๆ ออกดอกเป็นช่อ ตามส่วนยอดและโคนก้านใบ แต่ละช่อมีดอกประมาณ 5-8 ดอก ดอกสีขาวมี 6 กลีบ กลีบดอกจะบิดเวียนไปทางขวางคล้ายกังหัน ปลายกลีบเหมือนหางปลา วงในดอกเป็นสีแดงแสด หลอดดอกสีแง เกสรเป็นเส้นเล็กละเอียดซ้อนอยู่ในหลอดดอก มีกลิ่นหอม บานกลางคืน ออกดอกตลอดปี
การขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด ตอนกิ่ง และปักชำ
สภาพที่เหมาะสม ดินร่วนซุยระบายน้ำได้ดี ความชื้นปานกลาง แสงแดดจัด
ถิ่นกำเนิด ประเทศอินเดีย
[panmai]
ดอกทุ้งฟ้า ดอกไม้ประจำจังหวัด กระบี่
ชื่อสามัญ
ชื่อวิทยาศาสตร์ Alstonia macrophylla Wall.
วงศ์ APOCYNACEAE
ชื่ออื่น ทุ้งฟ้าไก่, ตีนเทียน, พวมพร้าว
ลักษณะทั่วไป เป็นไม้ยืนต้น สูง 15-25 เมตร ไม่ผลัดใบ ลำต้นเปลาตรง เปลือกสีขาวอมเทา มีน้ำยางสีขาว ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงรอบข้อ ข้อละ 3-4 ใบ แผ่นใบรูปหอกกลับ กว้าง 3-8 ซม. ยาว 10-30 ซม. ปลายเป็นติ่งแหลม ท้องใบมีคราบสีขาว หลังใบสีขาว ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง จำนวนมาก กลีบดอกสีขาวหรือขาวอมเหลืองเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 5 กลีบ ออกดอกระหว่าง เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม
การขยายพันธุ์ โดยการเพาะเมล็ด
สภาพที่เหมาะสม เป็นไม้ที่ต้องการความชื้นมาก เจริญเติบโตได้ดีในดินที่ระบายน้ำได้ดี
ถิ่นกำเนิด ป่าดงดิบ ภาคใต้
[panmai]
ชื่อวิทยาศาสตร์ Alstonia macrophylla Wall.
วงศ์ APOCYNACEAE
ชื่ออื่น ทุ้งฟ้าไก่, ตีนเทียน, พวมพร้าว
ลักษณะทั่วไป เป็นไม้ยืนต้น สูง 15-25 เมตร ไม่ผลัดใบ ลำต้นเปลาตรง เปลือกสีขาวอมเทา มีน้ำยางสีขาว ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงรอบข้อ ข้อละ 3-4 ใบ แผ่นใบรูปหอกกลับ กว้าง 3-8 ซม. ยาว 10-30 ซม. ปลายเป็นติ่งแหลม ท้องใบมีคราบสีขาว หลังใบสีขาว ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง จำนวนมาก กลีบดอกสีขาวหรือขาวอมเหลืองเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 5 กลีบ ออกดอกระหว่าง เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม
การขยายพันธุ์ โดยการเพาะเมล็ด
สภาพที่เหมาะสม เป็นไม้ที่ต้องการความชื้นมาก เจริญเติบโตได้ดีในดินที่ระบายน้ำได้ดี
ถิ่นกำเนิด ป่าดงดิบ ภาคใต้
[panmai]
กุหลาบ
เป็นไม้พุ่มตั้งหรือเลื้อย ใบเป็นใบประกอบ ประกอบด้วย 3 ใบ หรือ 5 ใบ ขอบใบจัก หูใบติดกับก้านใบหรือเป็นอิสระ
ดอกออกที่ปลายกิ่ง มีทั้งดอกเดี่ยวหรือเป็นช่อ กลีบรองดอกเป็นรูปถ้วยสีเขียว ปลายแยกเป็น 5 แฉก กลีบดอกปกติมี 5 กลีบ เกสรตัวเมียอยู่กลางดอกเป็นผลกลม ภายในมีเมล็ดแข็งจำนวนมาก เกสรตัวผู้มีอยู่เป็นจำนวนมาก กุหลาบมีหลายชนิด หลายพันธุ์ ส่วนใหญ่ดอกมีกลิ่นหอมเย็น
การขยายพันธุ์มีหลายแบบ เช่น เพาะเมล็ด ตอน ติดตา และปักชำ
...กุหลาบหอมหวล ส่งกลิ่นยียวนแสนยวนยั่วหัวใจ
ทั้งหอมทั้งหวาน ดอกเพิ่งบานใหม่ ๆ ...
...ฉันมั่นใจกุหลาบเป็นไม้งามละม่อม ควรจะออมถนอมชม
ทุก ๆ คนพอใจมักเด็ดเอาไปดอมดม หรือจะชมเสียบผมชื่นอุรา
สวยสีสรรค์ทุก ๆ พรรณสุดจะเด่น กลิ่นเยือกเย็นสีที่เห็นไม่บาดตา
กลีบเกสรกลีบอ่อนซ้อนกันดูงามสง่า ทุกเวลารวยรื่นนาสาน่าดม...
...ริมธารละลานไปด้วยบุปผา ดอกแดงกุหลาบพนาสลับลัดดากล้วยไม้ไพร...
กระดังงาสงขลา
เป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ 2 เมตร ใบเป็นชนิดใบเดี่ยวยาว กลีบรองดอกมีสามกลีบ สีเขียว มีขนาดสั้น กลีบใบเรียวสองชั้น ชั้นนอกมี 5 กลีบ ชั้นในมี 15 กลีบ ปลายกลีบเรียวแหลมโคนกลีบด้านในมีแต้มสีน้ำตาล ที่ฐานกลางดอกจะมีเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียติดอยู่
กระดังงา ออกดอกตลอดปี มีกลิ่นหอมอบอวล
ขยายพันธุ์ด้วยการตอน
[1.tv5]
เป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ 2 เมตร ใบเป็นชนิดใบเดี่ยวยาว กลีบรองดอกมีสามกลีบ สีเขียว มีขนาดสั้น กลีบใบเรียวสองชั้น ชั้นนอกมี 5 กลีบ ชั้นในมี 15 กลีบ ปลายกลีบเรียวแหลมโคนกลีบด้านในมีแต้มสีน้ำตาล ที่ฐานกลางดอกจะมีเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียติดอยู่
กระดังงา ออกดอกตลอดปี มีกลิ่นหอมอบอวล
ขยายพันธุ์ด้วยการตอน
[1.tv5]
พันธุ์ไม้ดอกของไทย
ไม้ดอกชนิดเป็นพุ่ม
1.กรรณิการ์
เป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ 2 เมตร ลำต้นและกิ่งเป็นเหลี่ยม ใบเป็นชนิดใบเดี่ยวออกเป็นคู่ เรียงตรงข้าม ใบทรงรูปไข่ ขอบใบเรียบหรือมีจักเล็กน้อย
ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง เป็นดอกเดี่ยวมีโคนกลีบติดกัน มีลักษณะเป็นหลอดสีส้ม กลีบดอกแคบ ปลายกลีบสีขาวและไม่เสมอกัน จะมีกลิ่นหอมตอนกลางคืน และดอกจะร่วงหมดในตอนเช้า ผลมีลักษณะเป็นแผ่นแบน ภายในมีเมล็ดอยู่ 2 เมล็ด
ขยายพันธุ์โดยการตอนหรือปักชำ
[1.tv5]
1.กรรณิการ์
เป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ 2 เมตร ลำต้นและกิ่งเป็นเหลี่ยม ใบเป็นชนิดใบเดี่ยวออกเป็นคู่ เรียงตรงข้าม ใบทรงรูปไข่ ขอบใบเรียบหรือมีจักเล็กน้อย
ดอกออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง เป็นดอกเดี่ยวมีโคนกลีบติดกัน มีลักษณะเป็นหลอดสีส้ม กลีบดอกแคบ ปลายกลีบสีขาวและไม่เสมอกัน จะมีกลิ่นหอมตอนกลางคืน และดอกจะร่วงหมดในตอนเช้า ผลมีลักษณะเป็นแผ่นแบน ภายในมีเมล็ดอยู่ 2 เมล็ด
ขยายพันธุ์โดยการตอนหรือปักชำ
[1.tv5]
ดอกไม้ในวรรณคดีไทย
ดอกไม้ในวรรณคดี
ดอกไม้ ในวรรณคดีไทย หมายถึงดอกไม้ที่บรรดากวีไทยท่านได้พรรณาไว้เป็นบทร้อยกรองอย่างไพเราะใน หนังสือวรรณคดี เช่น รามเกียรติ์ อิเหนา เงาะป่า ดาหลัง ขุนช้างขุนแผน พระอภัยมณี บทเห่เรือเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ กาพย์ห่อโคลงนิราศธารโศก กาพย์ห่อโคลงนิราศทองแดง นิราสหริภุญชัย นิราศพระประธม นิราศสุพรรณ นิราศเมืองแกลง นิราศภูเขาทอง นิราศอิเหนา นิราศเจ้าฟ้าลิลิตพระลอ และลิลิตตะเลงพ่าย
เป็นความสามารถเฉพาะตัวของกวีไทย ที่ได้พรรณาชื่อดอกไม้หลายชนิดไว้อย่างไพเราะ ทั้งลักษณะ สีสัน กลิ่น ทำให้ผ้อ่านเกิดมโนภาพ ประทับใจ เหมือนได้ไปอยู่ ณ ที่ด้วย หวังว่าสิ่งที่เรียบเรียงมาคงจะเป็นประโยชน์และเกิดความประทับใจกับการพรรณา ของกวีไทยบ้าง
ดอกกรรณิการ์
“…กรรณิการ์ ก้านสีแดงสด
คิดผ้าแสดติดขลิบนาง
เห็นเนื้อเรื่อโรงราง
ห่มสองบ่าอ่าโนเน่…”
วรรณคดี : กาพย์ห่อโคลง “นิราศธารโศก”
ผู้ประพันธ์ : เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ (เจ้าฟ้ากุ้ง)
ชื่อพฤกษศาสตร์ : Nyctanthes arbor – tristis
ชื่อสามัญ : Night Jasmine
ชื่อวงศ์ : Verbenaceae
กรรณิการ์เป็นพุ่มไม้ขนาดเล็ก สูงประมาณ ๑ - ๒ เมตร ใบสากคาย ขอบใบเป็นจักตื้น ๆ และใบออกทิศทางตรงข้ามกัน
ดอกสีขาว ออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ลักษณะคล้ายดอกมะลิ แต่มีขนาดกลีบแคบกว่า ปลายกลีบมี ๒ แฉก ขนาดไม่เท่ากัน โคนกลีบติดกันเป็นหลอดสีส้มสด ดอกบานส่งกลิ่นหอมในเวลากลางคืน และจะร่วงในเช้าวันรุ่งขึ้น
ผลมีลักษณะกลมแบน ขณะอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่เป็นสีดำ
การขยายพันธุ์ ใช้ตอนกิ่ง
ทางด้านสมุนไพร เปลือกให้น้ำฝาด เปลือกชั้นในเมื่อผสมกับปูนขาวจะให้สีแดง ดอกมีน้ำมันหอมระเหยที่กลั่นได้ เช่นเดียวกับมะลิ ส่วนของดอกที่เป็นหลอด สกัดเป็นสีย้อมผ้าไหม ใบใช้แก้ไข้และโรคปวดตามข้อ น้ำคั้นจากใบใช้เป็นยาระบาย และเป็นยาขมเจริญอาหาร
ดอกไม้ ในวรรณคดีไทย หมายถึงดอกไม้ที่บรรดากวีไทยท่านได้พรรณาไว้เป็นบทร้อยกรองอย่างไพเราะใน หนังสือวรรณคดี เช่น รามเกียรติ์ อิเหนา เงาะป่า ดาหลัง ขุนช้างขุนแผน พระอภัยมณี บทเห่เรือเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร์ กาพย์ห่อโคลงนิราศธารโศก กาพย์ห่อโคลงนิราศทองแดง นิราสหริภุญชัย นิราศพระประธม นิราศสุพรรณ นิราศเมืองแกลง นิราศภูเขาทอง นิราศอิเหนา นิราศเจ้าฟ้าลิลิตพระลอ และลิลิตตะเลงพ่าย
เป็นความสามารถเฉพาะตัวของกวีไทย ที่ได้พรรณาชื่อดอกไม้หลายชนิดไว้อย่างไพเราะ ทั้งลักษณะ สีสัน กลิ่น ทำให้ผ้อ่านเกิดมโนภาพ ประทับใจ เหมือนได้ไปอยู่ ณ ที่ด้วย หวังว่าสิ่งที่เรียบเรียงมาคงจะเป็นประโยชน์และเกิดความประทับใจกับการพรรณา ของกวีไทยบ้าง
ดอกกรรณิการ์
“…กรรณิการ์ ก้านสีแดงสด
คิดผ้าแสดติดขลิบนาง
เห็นเนื้อเรื่อโรงราง
ห่มสองบ่าอ่าโนเน่…”
วรรณคดี : กาพย์ห่อโคลง “นิราศธารโศก”
ผู้ประพันธ์ : เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ (เจ้าฟ้ากุ้ง)
ชื่อพฤกษศาสตร์ : Nyctanthes arbor – tristis
ชื่อสามัญ : Night Jasmine
ชื่อวงศ์ : Verbenaceae
กรรณิการ์เป็นพุ่มไม้ขนาดเล็ก สูงประมาณ ๑ - ๒ เมตร ใบสากคาย ขอบใบเป็นจักตื้น ๆ และใบออกทิศทางตรงข้ามกัน
ดอกสีขาว ออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง ลักษณะคล้ายดอกมะลิ แต่มีขนาดกลีบแคบกว่า ปลายกลีบมี ๒ แฉก ขนาดไม่เท่ากัน โคนกลีบติดกันเป็นหลอดสีส้มสด ดอกบานส่งกลิ่นหอมในเวลากลางคืน และจะร่วงในเช้าวันรุ่งขึ้น
ผลมีลักษณะกลมแบน ขณะอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่เป็นสีดำ
การขยายพันธุ์ ใช้ตอนกิ่ง
ทางด้านสมุนไพร เปลือกให้น้ำฝาด เปลือกชั้นในเมื่อผสมกับปูนขาวจะให้สีแดง ดอกมีน้ำมันหอมระเหยที่กลั่นได้ เช่นเดียวกับมะลิ ส่วนของดอกที่เป็นหลอด สกัดเป็นสีย้อมผ้าไหม ใบใช้แก้ไข้และโรคปวดตามข้อ น้ำคั้นจากใบใช้เป็นยาระบาย และเป็นยาขมเจริญอาหาร
ดอกไม้เมืองหนาว
ชื่อไทย : เทียนนกแก้ว
ชื่ออังกฤษ : Parrot Flower
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Impatiens psittacina Hk. f.
ชื่อวงศ์ : BALSAMINACEAE
เทียนนกแก้ว ดอกไม้แปลกตาเป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่นของไทย หาไม่ได้จากที่ใดๆ ในโลก จัดอยู่ในกลุ่มของต้นเทียน มีรูปทรงดอกที่สวยงามเหมือนดั่งนกที่โดนแมวกัดไปครึ่งตัว เราเรียกชื่อตามลักษณะรูปทรงว่า เทียนนกแก้ว จัดอยู่ในกลุ่มพืชล้มลุก ลำต้นอวบน้ำ สูง 0.5-1.5 เมตร ใบเดี่ยวรูปไข่กว้าง โคนใบมน ปลายใบแหลม ขอบใบจัก ขนาดกว้าง 2-4 ซม. ยาว 5-10 ซม. ลักษณะดอกเหมือนดังที่เห็นในภาพ ออกเดี่ยวตามก้านใบ หรือปลายยอด ขนาดดอกกว้าง 2-3 ซม. ยาวประมาณ 5-7 ซม. ช่วงเวลาออกดอก ต.ค. - พ.ย. ประโยชน์คือ สวย ชมแล้วชื่นใจ
ชื่ออังกฤษ : Parrot Flower
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Impatiens psittacina Hk. f.
ชื่อวงศ์ : BALSAMINACEAE
เทียนนกแก้ว ดอกไม้แปลกตาเป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่นของไทย หาไม่ได้จากที่ใดๆ ในโลก จัดอยู่ในกลุ่มของต้นเทียน มีรูปทรงดอกที่สวยงามเหมือนดั่งนกที่โดนแมวกัดไปครึ่งตัว เราเรียกชื่อตามลักษณะรูปทรงว่า เทียนนกแก้ว จัดอยู่ในกลุ่มพืชล้มลุก ลำต้นอวบน้ำ สูง 0.5-1.5 เมตร ใบเดี่ยวรูปไข่กว้าง โคนใบมน ปลายใบแหลม ขอบใบจัก ขนาดกว้าง 2-4 ซม. ยาว 5-10 ซม. ลักษณะดอกเหมือนดังที่เห็นในภาพ ออกเดี่ยวตามก้านใบ หรือปลายยอด ขนาดดอกกว้าง 2-3 ซม. ยาวประมาณ 5-7 ซม. ช่วงเวลาออกดอก ต.ค. - พ.ย. ประโยชน์คือ สวย ชมแล้วชื่นใจ
วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
ความเชื่อ : บัว : ดอกไม้มงคล กับสารพันความหมาย
“ ดอกบัว ” นับเป็นดอกไม้ที่คนไทยเราคุ้นเคยเป็นอย่างมาก เพราะใช้ในการบูชาพระอยู่เป็นประจำ แม้แต่การแสดงความเคารพด้วยการประนมมือของเรา หากดูดีๆก็จะเห็นว่าคล้ายรูปดอกบัว การที่ดอกบัวเป็นดอกไม้ที่ใช้ในพิธีมงคล คงเป็นเพราะธรรมชาติกำเนิดของดอกบัวได้แสดงให้เห็นถึงปรัชญาการดำเนินชีวิตอย่างลึกซึ้ง กล่าวคือ แม้จะเกิดในโคลนตม แต่เมื่อโผล่พ้นน้ำขึ้นมารับแสงสว่างแล้ว กลีบดอกกลับสะอาดบริสุทธิ์ ไม่มีสิ่งใดแปดเปื้อน เสมือนคนที่เกิดมาแล้ว หากเข้าถึงหลักธรรมก็สามารถเป็นผู้หลุดพ้นจากกิเลส และความทุกข์ทั้งปวงได้ อย่างไรก็ดี ดอกบัว มิได้เกี่ยวข้องกับชีวิตคนเราเพียงแค่เป็นดอกไม้บูชาพระเท่านั้น แต่ “ บัว ” ยังมีบทบาทต่อวิถีชีวิตไทยในอีกหลากหลายลักษณะ ซึ่งกลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม จะขอนำบางส่วนจากหนังสือ “ ปกิณกคดีวิถีชีวิตไทยในเรื่องบัว ” ของนางฤดีรัตน์ กายราศ มาเสนอเพื่อเป็นความรู้ดังต่อไป
ไม้มงคลประจำราศี
กุหลาบเหลือง ราศีมังกร (16 ม.ค.-15 ก.พ.)
ชาวราศีมังกรเป็นธาตุดิน เป็นผู้ที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีความเป็นผู้นำ มีมนุษยสัมพันธ์ดี รักอิสระไม่ชอบให้ใครบงการ เป็นนักต่อสู้ แสวงหา และเป็นนักผจญภัย เนื่องจากชีวิตในวัยเด็กต้องดิ้นรนต่อสู้ คนมังกรจึงเป็นคนเก่ง ขยันขันแข็ง อดทน และเฉลียวฉลาด
ไม้มงคลที่ชาวราศีมังกรควรปลูกคือ แก้ว วาสนา โป๊ยเซียน และกุหลาบ เพื่อเสริมความร่ำรวย รุ่งเรือง ทำให้เกิดโชคลาภ วาสนา ให้กับตนเอง และเพื่อเสริมความมั่นคงแก่ลูกหลาน
นอกจากนี้แล้วยังมีไม้มงคลเพื่อเสริมดวงชะตาให้กับชาวราศีมังกร
ไผ่ ซึ่งแสดงถึงความอดทนความเป็นนักสู้
ราชพฤกษ์ สีเหลืองของราชพฤกษ์เปรียบกับความรุ่งเรืองดั่งทอง
ต้นจำปี ไม้เหล่านี้จะให้ความร่มเย็น และต้นไม้เหล่านี้ห้ามปลูกตรงทางเข้าประตูรั้วด้านหน้า เพราะถือว่าเป็นการทำให้ปากมังกรอับจน ควรจะปลูกด้านข้าง หรือ ด้านหลัง หรือบริเวณรอบๆ
ชาวราศีมังกรเป็นธาตุดิน เป็นผู้ที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีความเป็นผู้นำ มีมนุษยสัมพันธ์ดี รักอิสระไม่ชอบให้ใครบงการ เป็นนักต่อสู้ แสวงหา และเป็นนักผจญภัย เนื่องจากชีวิตในวัยเด็กต้องดิ้นรนต่อสู้ คนมังกรจึงเป็นคนเก่ง ขยันขันแข็ง อดทน และเฉลียวฉลาด
ไม้มงคลที่ชาวราศีมังกรควรปลูกคือ แก้ว วาสนา โป๊ยเซียน และกุหลาบ เพื่อเสริมความร่ำรวย รุ่งเรือง ทำให้เกิดโชคลาภ วาสนา ให้กับตนเอง และเพื่อเสริมความมั่นคงแก่ลูกหลาน
นอกจากนี้แล้วยังมีไม้มงคลเพื่อเสริมดวงชะตาให้กับชาวราศีมังกร
ไผ่ ซึ่งแสดงถึงความอดทนความเป็นนักสู้
ราชพฤกษ์ สีเหลืองของราชพฤกษ์เปรียบกับความรุ่งเรืองดั่งทอง
ต้นจำปี ไม้เหล่านี้จะให้ความร่มเย็น และต้นไม้เหล่านี้ห้ามปลูกตรงทางเข้าประตูรั้วด้านหน้า เพราะถือว่าเป็นการทำให้ปากมังกรอับจน ควรจะปลูกด้านข้าง หรือ ด้านหลัง หรือบริเวณรอบๆ
วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2553
ดอกไม้ประจําวันเกิด
สมัยโบราณเชื่อกันไว้ว่า ในแต่ละวันจะมีต้นไม้และดอกไม้ประจำวัน
ซึ่งเชื่อกันว่า หากใครที่ปลูกต้นไม้หรือดอกไม้ประจำวันเกิด แล้วต้นไม้หรือดอกไม้เจริญเติบโตได้ดี ชีวิตก็จะก้าวหน้า ร่างกายแข็งแรงหรือถ้าออกดอกเบ่งบาน เชื่อกันว่าจะมีความสุขความสมหวังเสมอ ตรงกันข้าม หากดอกไม้หรือต้นไม้เกิดเหี่ยวเฉาลงก็จะเป็นลางเตือนเจ้าของต้นไม้ ดอกไม้ได้เหมือนกัน
ซึ่งเชื่อกันว่า หากใครที่ปลูกต้นไม้หรือดอกไม้ประจำวันเกิด แล้วต้นไม้หรือดอกไม้เจริญเติบโตได้ดี ชีวิตก็จะก้าวหน้า ร่างกายแข็งแรงหรือถ้าออกดอกเบ่งบาน เชื่อกันว่าจะมีความสุขความสมหวังเสมอ ตรงกันข้าม หากดอกไม้หรือต้นไม้เกิดเหี่ยวเฉาลงก็จะเป็นลางเตือนเจ้าของต้นไม้ ดอกไม้ได้เหมือนกัน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)